ชื่อวิทยานิพนธ์ : สภาพการบริหารและความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อสถาน
|
ชื่อวิทยานิพนธ์ : สภาพการบริหารและความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อสถานศึกษาในสังกัดคณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย
ชื่อผู้วิจัย : พระชวน บูรณะ
ปริญญา : ครุศาสตรมหาบัณฑิต (สาขาวิชาบริหารการศึกษา)
Abstract:
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ศึกษาสภาพการบริหาร ความพึงพอใจของผู้ปกครอง และเสนอแนวทางพัฒนาการบริหารสถานศึกษาในสังกัดคณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย โดยใช้แบบสอบถาม จานวน 125 ฉบับ เก็บข้อมูลจากผู้บริหาร และครู จานวน 55 ฉบับ ผู้ปกครอง จานวน 70 ฉบับ ได้รับแบบสอบถามคืนทั้งสิ้น จานวน 125 ฉบับ คิดเป็นร้อยละ 100.0 แล้ววิเคราะห์สภาพและความพึงพอใจของผู้ปกครอง เพื่อกาหนดประเด็นในการหาแนวทางพัฒนา โดยการสัมภาษณ์ผู้บริหารและคณะกรรมการสถานศึกษา จานวน 12 รูป/ คน แล้ววิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ ค่าความถี่ ร้อยละ ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการวิเคราะห์เนื้อหา ผลการวิจัยพบว่า 1. สภาพการบริหารสถานศึกษาในสังกัดคณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย โดยภาพรวม มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ที่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง เช่น (1) การสอนเสริมเด็กเรียนอ่อนอย่างเป็นระบบ (2) สถานศึกษาจัดให้มีกองทุนกู้ยืมเพื่อการศึกษา (3) สถานศึกษามีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบพัสดุ ครุภัณฑ์ ประจาปี เพื่อตรวจสอบสภาพ บารุงรักษา ซ่อมแซม ทั้งก่อนและหลังการใช้งานอย่างสม่าเสมอ (4)สถานศึกษาส่งเสริมสนับสนุนให้บุคลากรร่วมมือกันใช้ทรัพยากรในชุมชนให้เกิดประโยชน์ต่อกระบวนการเรียนการสอน (5) สถานศึกษาจัดบุคลากรรับผิดชอบงานธุรการและพัฒนาให้มีความรู้ความสามารถในการปฏิบัติงานธุรการตามระบบที่กาหนดไว้ 2. ความพึงพอใจของผู้ปกครองที่มีต่อสถานศึกษาในสังกัดคณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย โดยภาพรวม มีการปฏิบัติอยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ที่มีการปฏิบัติอยู่ในระดับปานกลาง เช่น (1) นักเรียนได้รับรางวัลจากการแข่งขันทางวิชาการ (2) มีห้องน้าสะอาดและเพียงต่อสาหรับนักเรียน (3) มีโรงอาหารสะอาดและถูกสุขลักษณะ (4) มีการบริการแนะแนวนักเรียนที่มีปัญหา (5) มีการจัดบริการห้องรับแขกสาหรับผู้มาเยี่ยมนักเรียน 3. แนวทางพัฒนาการบริหารสถานศึกษาในสังกัดคณะสงฆ์อนัมนิกายแห่งประเทศไทย (1) ด้านการบริหารงานวิชาการ ควรมีระบบทะเบียนที่ทันสมัย ควรสรรหาบุคลากรจากภายนอกที่มีความรู้ (2) ด้านการบริหารงานงบประมาณ ควรหางบประมาณมาสนับสนุน ควรสรรหาบุคลากรจากภายนอกที่มีความรู้มาทางาน ควรมีการประชาสัมพันธ์และจัดกิจกรรมให้หลากหลายโดยเชิญชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม (3) ด้านการบริหารงานบุคคล ควรหางบประมาณให้เพียงพอ ควรจัดให้มีผู้รับผิดชอบอย่างจริงจัง ควรมีการสารวจข้อมูลและความต้องการของบุคลากรทุกปีการศึกษา ควรประเมินครูทุกภาคเรียนอย่าง ต่อเนื่อง (4) ด้านการบริหารงานทั่วไป ควรสรรหาบุคลากรจากภายนอกที่มีความรู้โดยตรงในงานธุรการเข้ามาทางาน. ควรมีการติดตามประเมินผล ปรับปรุงงานธุรการอย่างสม่าเสมอ 4. แนวทางพัฒนาความพึงพอใจของผู้ปกครอง (1) ด้านผลสัมฤทธิ์ของนักเรียน ควรส่งเสริมให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันทางวิชาการมากยิ่งขึ้น ควรส่งเสริมให้นักเรียนได้เรียนต่อในระดับที่สูงขึ้นไป โดยการให้ทุนเรียนต่อ ควรส่งเสริมให้นักเรียนติวเข้มมากยิ่งขึ้น (2) ด้านอาคารสถานที่และสภาพแวดล้อม ควรจัดแบ่งหน้าที่รับผิดชอบอย่างจริงจังและตรวจสอบความเรียบร้อยตลอดเวลา ควรจัดหางบประมาณให้เพียงพอ (3) ด้านการบริการนักเรียน ควรจัดให้มีกิจกรรมอย่างหลากหลายภายในวัดโดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม ควรส่งเสริมให้บุคลากรในโรงเรียนมีส่วนร่วมในการดูแลเอาใจใส่เด็กที่มีปัญหาอย่างใกล้ชิด ควรจัดหางบประมาณให้เพียงพอ